Cannot Find Your Product

Pre-Order Today



ทางร้านรับสั่งสินค้า Pre-Order
จากต่างประเทศ สนใจกรุณาแจ้ง
รายการสินค้าที่ต้องการทาง
อีเมล์ sorsrimongkol@hotmail.com
Line ID: @sorsrimongkol
 

 
Return to Previous Page

คำถามที่พบบ่อย

faq Sorsrimongkol Leather Craft Supplies Bangkok Thailand ส.ศรีมงคล อุปกรณ์งานหนัง

สอบถามเกี่ยวกับข้อมูลร้าน คลิ๊กที่นี่ 

1. อุปกรณ์แต่ละชนิด มีคู่มืออธิบายการใช้งานหรือไม่
มีคู่มืออธิบายสำหรับสินค้าบางรายการเท่านั้น ลูกค้าสามารถโทรศัพท์หรืออีเมล์สอบถามวิธีการใช้อุปกรณ์ได้

2. หากเครื่องมือบางประเภท เช่น ส้อมตอก หรือตัวเจาะรู หลักจากใช้งานไปได้ระยะหนึ่งแล้วจะไม่คม ต้องทำอย่างไร
สามารถนำเครื่องมือไปลับความคมได้ โดยใช้ด้ามไม้ลับคม

3. ด้ามไม้ลับคม จำเป็นต้องใช้ก้อนขัดโลหะ (สีเขียว) ร่วมกับน้ำมันจับเนื้อโลหะหรือไม่
วิธีการ ใช้ด้ามไม้ลับคม ต้องบีบน้ำมันจับเนื้อโลหะ ลงบนพื้นที่สำหรับลับคมก่อน แล้วจึงนำก้อนขัดโลหะถูลงบนพื้นที่สำหรับลับคม หลังจากนั้นจึงนำเครื่องมือที่ต้องการลับคม เช่น ส้อมตอกรู ไปลับกับด้ามไม้ลับคม  โดยที่น้ำมันจับเนื้อโลหะจะช่วยจับเนื้อก้อนขัดโลหะ ให้ยึดติดกับหน้าพื้นผิวลับคม ทำให้ประหยัดก้อนขัดโลหะมากขึ้น

4. ส้อมเจาะรูสำหรับสร้างฝีเย็บ มีขารูปทรงแบบไหนบ้าง และมีระยะความถี่เท่าไหรบ้าง 
ส้อมมีรูปทรง 4 แบบ ได้แก่
1) แบบรูปทรงไดมอนด์ มีระยะความถี่ของฝีเย็บ ตั้งแต่ระยะ 3 มม. 4 มม. 5 มม. และ 6 มม.
2) แบบรูปขาแบนแนวนอน มีระยะความถี่ของฝีเย็บ คือ 2 มม และ 3 มม.
3) แบบรูปขาแบนแนวเฉียง มีระยความถี่ของฝีเย็บ คือ 3 มม. 4 มม. 4.5 มม. และ 5 มม.
4) แบบรูปทรงรูกลม มีระยะความถี่ของรู คือ 4 มม. และ 5 มม
 
5. ส้อมเจาะรูสำหรับงานเย็บมือ ควรใช้แบบใดและขนาดเท่าไร
หากต้องการเย็บโดยใช้ด้ายเย็บ ควรใช้ส้อมตอกรูแบบไดมอนด์
สำหรับขนาดที่ต้องการใช้งาน ขึ้นอยู่กับขนาดของชิ้นงานและความชอบส่วนบุคคล โดยขนาดที่ใช้ทั่วไปคือ 5 มม.

6. ทำไมส้อมเจาะรูของต่างประเทศจึงมีราคาสูง 
ส้อมจากต่างประเทศมีระยะของฝีเย็บที่แม่นยำและมีความคมที่ได้มาตรฐาน
ทำจากเหล็กมีเนื้อแข็งทำให้อายุการใช้งานยาวนานกว่า 
 
7. ส้อมเจาะรูสำหรับสร้างฝีเย็บแบบไหนเป็นที่นิยมมากที่สุด
รูปทรงแบบไดมอนด์ ระยะ 5 มม. จะเป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นรูปทรงที่มีรอยเย็บที่สวยงาม
ประกอบกับระยะ 5 มม.เป็นระยะกลางที่สามารถใช้ได้ทั้งงานชิ้นเล็ก เช่น กระเป๋าเงิน ไปจนถึงงานชิ้นใหญ่
เช่น กระเป๋าสะพาย หรือ สายเข็มขัด 
 
8. ส้อมเจาะรูแต่ละแบบควรใช้กับด้ายแบบไหน 
1) แบบรูปทรงไดมอนด์ เหมาะสำหรับด้ายทั้งแบบ ด้ายเส้นกลม และด้ายเส้นแบน
2) แบบรูปขาแบนแนวนอน เหมาะสำหรับด้ายแบบเส้นกลม และหนังเส้นแบนสำหรับถัก
3) แบบรูปขาแบนแนวเฉียง เหมาะสำหรับด้ายแบบเส้นกลม
4) แบบรูปทรงรูกลม เหมาะสำหรับด้ายแบบเส้นกลม หนังเส้นกลมสำหรับถัก 
 
9. ด้ายที่ร้านขายมีกี่ประเภท อะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร 
ด้ายเย็บหนังมีหลายแบบ โดยทั่วไปแล้วจะมี 2 ลักษณะ คือ ด้ายเส้นแบน และ ด้ายเส้นกลม
โดยด้ายเส้นกลม ก็จะมีหลายขนาด หลายยี่ห้อ ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งาน 

10. ด้ายเย็บมือ จำเป็นต้องใช้ wax ทุกครั้งหรือไม่
ไม่จำ เป็น ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งาน  เนื่องจากการใช้ wax รูดกับด้ายเย็บก่อนที่จะใช้งาน จะช่วยทำให้เส้นด้ายจับตัวเรียงเส้นกัน และมีความลื่น ทำให้ง่ายต่อการเย็บ แต่การใช้ wax มากเกินไป จะทำให้ wax เกาะอยู่บนเส้นด้ายทำให้เนื้อ wax ล้นออกมาเกาะติดบนหนัง ซึ่งอาจทำให้ชิ้นงานดูไม่สะอาด

11. CMC แบบผง และ CMC แบบสำเร็จรูปพร้อมใช้ แตกต่างหรือเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร
วิธีการใช้และผลลัพธ์ที่ได้ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ CMC แบบผงต้องไปผสมน้ำก่อนถึงนำไปใช้ได้
ซึ่งอาจทำให้เสียเวลา แต่จะได้ปริมาณ CMC ที่เยอะและคุ้มค่ามากกว่า

12. CMC, Tokonole และ Gum Tragacanth แตกต่างกันหรือไม่ 
CMC คือ Sodium Carboxymethyl Cellose จะมีลักษณะเป็นผงแป้ง เวลาใช้งานต้องนำไปผสมน้ำในอัตราส่วน 3 g.
ต่อน้ำอุ่น 200 ml แล้วทิ้งไว้ให้เซ็ตตัว 1 คืน จึงนำมาใช้งานได้  สำหรับ Tokonole และ Gum Tragacanth
สามารถนำมาใช้งานได้เลย โดยใช้ร่วมกับ ไม้ขัดขอบ Bone folder และกระจกปาดท้องหนัง
 
13. CMC, Tokonole, Gum Tragacanth แตกต่างจากสีทาขอบอย่างไร
CMC, Tokonole, Gum Tragacanth ใช้ขัดขอบหนัง ให้มีความเนียนเรียบ เงา สวยงาม โดยส่วนใหญ่จะไม่มีสี
แต่มี Gum Tragacanth ของบางยี่ห้อจะมีสีน้ำตาล และสีดำให้เลือกใช้ ซึ่งการขัดขอบนิยมขัดเฉพาะการทำชิ้นงาน
โดยใช้หนังฟอกฝาด สำหรับสีทาขอบ เป็นการลงสีที่ขอบหนังให้มีความสวยงาม ซึ่งจะมีสีให้เลือกหลากหลายตามสี
ของหนังที่ใช้ โดยส่วนใหญ่จะนิยมลงสีทาขอบกับหนังฟอกสีทุกประเภท 

14. สีย้อมหนัง สูตรน้ำ (water base) และสูตรแอลกฮอล์ (oil base) แตกต่างกันอย่างไร
สีย้อมหนัง สูตรน้ำ ข้อดีคือ ไม่มีกลิ่นและสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ล้างออกง่าย เนื้อสีจะบางเบา นำมาผสมสีกันได้
และสามารถใช้น้ำยาเคลือบปิดสีแบบเงา หรือ ปิดสีแบบด้านก็ได้ ข้อเสียคือ ต้องลงสีอย่างน้อย 2 รอบ และควรทาน้ำยาปิดสี
หลังจากย้อมเสร็จแล้ว เพื่อป้องกันสีหลุดหลังจากนำไปใช้งาน สีย้อมหนังสูตรแอลกอฮล์ (oil base) ข้อดีคือ สีเป็นเงามันวาว
ตั้งแต่รอบแรกที่ลงสี เนื้อสีติดง่าย สีไม่หลุดหลังจากย้อมแล้ว ข้อเสียคือ มีกลิ่นฉุนเล็กน้อย และใช้นำ้ยาเคลือบปิดสีแบบเงา
ได้อย่างเดียวเท่านั้น
 
15. ใช้อุปกรณ์ใดในการลงสี 
ใช้อุปกรณ์ Wool brush ในการลงทั้งสีทาขอบ และ สีย้อมหนัง ทั้งนี้ หากเป็นชิ้นงานใหญ่ สามารถใช้ Sponge ในการลงสีได้
 
16. Prime Nestsfoot Oil Compound และ 100% Pure Neatsfoot Oil แตกต่างกันอย่างไร 
ทั้ง 2 แบบมีคุณสมบัติทำให้หนังมีความชุ่มชื่น และนิ่มขึ้น แต่ Nestsfoot Oil Compound จะมีส่วนผสมของ ปิโตรเลียม
และสารเคมีตัวอื่น ทำให้มีผลเสียต่อหนังในระยะยาวหากใช้มากเกินไป ส่วนใหญ่จึงนิยมนำมาใช้ในการย้อมสีหนังฟอกฝาด
ให้มีสีเข้มขึ้นตามธรรมชาติแทนการลงสีย้อมหนัง สำหรับ 100% Pure Nestsfoot Oil นอกจากทำให้หนังมีความชุ่มชื่น
นิ่มขึ้น และสีเข้มขึ้นแล้ว ยังเป็นน้ำยาบำรุงเครื่องหนังให้ใช้ได้นานอีกด้วย
 
17. สามารถใช้อุปกรณ์ใดในการบำรุงรักษาหนังได้บ้าง
Mink Oil ทั้งแบบเนื้อครีม หรือ แบบสูตรน้ำ เช็คทำความสะอาดและบำรุงหนังให้มีความมันเงา และสามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง
หากนำ Mink Oil ไปลงบนหนังฟอกฟาด อาจทำให้สีเข้มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่เท่ากับการลงบำรุงด้วย Nestsfoot Oil  
อย่างไรก็ตาม Mink Oil และ Nestfoot Oil ไม่มีผลทำให้หนังที่ผ่านการฟอกสีจากโรงงานมาแล้วเปลี่ยนสี
 
18. น้ำยาตัวไหนกันน้ำได้บ้าง
Resolene กันน้ำได้ดีที่สุด  รองลงมาคือ Tan-Kote  
โดยนอกจากกันน้ำแล้ว ยังเป็นตัวเคลือบปิดสีหลังจากการย้อมสีแล้วให้มีความมันเงางามด้วย
 
19. การเลือกใช้ค้อน ควรเลือกใช้แบบไหนกับงานประเภทใด
ค้อนทีใช้สำหรับงานหนัง มีหลายประเภท มีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
ค้อนหัวเหล็กควรใช้กับเครื่องมือที่เป็นเหล็กทุกชนิดเช่น ส้อมตอกรู หรือ ตัวตอกแบบต่าง ๆ
(แต่หากต้องการรักษาเครื่องมือให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ควรหาเศษหนังมาหุ้มปิดหน้าค้อนขณะใช้งาน)

ค้อนหัวไม้: ส่วนใหญ่ใช้ได้กับเครื่องมือทุกประเภท ค้อนหัวไม้จะมีขนาดใหญ่กว่าค้อนทุกประเภท
ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน แต่หากใช้ไปนานๆ หน้าไม้จะยุบลงตามปริมาณการใช้งาน

ค้อนหัวยาง: สามารถใช้ได้กับเครื่องมือทุกประเภท เนื่องจากหัวค้อนมีขนาดใหญ่พอสมควรและมีพื้นผิวเป็นยาง
จึงไม่ทำให้เนื้อเหล็กเกิดการสึกหรอ และเสียงไม่ดังเวลาใช้งาน

ค้อนหัวยางสำหรับงานตอกลาย: ค้อนประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับงานตอกลายหนัง โดยส่วนที่สัมผัสเหล็กตอก
จะเป็นเนื้อยาง จึงไม่ทำให้เหล็กตอกลายสึกหรอมาก ค้อนชนิดนี้มีการออกแบบรูปทรงให้เหมาะสมกับงานตอกลายโดยเฉพาะ
 
20. กรรไกรธรรมดาสามารถตัดหนังได้หรือไม่
สามารถ ตัดได้  แต่เมื่อนำกรรไกรตัดกระดาษไปใช้กับการตัดหนังแล้ว จะทำให้กรรไกรหมดความคมเร็ว เนื่องจากกรรไกรตัดกระดาษไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตัดงานหนัง 
 
21. มีดตัดหนังแบบญี่ปุ่นเหมือนกันมีดคัตเตอร์ทั่วไปหรือไม่
มีดตัดหนังแบบญี่ปุ่น มีความคมสูงมาก เหมาะสำหรับการตัดหนังที่มีความหนามากๆ เช่น หนังธรรมชาติ (หนังฟอกฝาด)
ในกรณีที่ใช้ในการตัดหนังแบบบาง เช่น หนังนิ่ม หนังชามัวร์ มีดตัดหนังแบบญี่ปุ่นจะมีความแตกต่างจากมีดคัตเตอร์ไม่มากนัก
นอกจากนี้มีดตัดหนังแบบญี่ปุ่น ยังสามารถใช้เฉือนหนังให้บางลงได้ง่ายกว่าการใช้คัตเตอร์

 
22. กาวเหลืองของไทย แตกต่างกับกาวต่างประเทศอย่างไร
กาว เหลือง จะมีส่วนผสมของของแอลกอฮอล์และมีกลิ่นแรง เมื่อสูดดมเข้าไปติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เวลาใช้งานจึงจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่ๆ มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกก สำหรับกาวจากต่างประเทศ จะไม่มีส่วนผสมของของแอลกอฮอล์ และไม่มีกลิ่นแรง จึงสามารถทใช้งานได้ในห้องปรับอากาศได้ และไม่มีอันตรายต่อร่างกาย